พึ่งสังเกตตัวเองว่าตอนนี้ใช้ปากกาลงน้อยมาก จะใช้ก็ต่อเมื่อเราต้องเซ็นต์ชื่อบนเอกสารทางการหรือไม่ก็ทำธุรกรรมที่ธนาคารเท่านั้น ก็ทุกวันนี้เวลามีอะไรที่ต้องจดต้องจำ ผมเล่นพิมพ์โน๊ตใส่โทรศัพท์อย่างเดียว สมุดจดพกกันซะที่ไหน… ก็มีแต่ LAMY ทำให้อยากขีดเขียนบนกระดาษครับ

รู้จักปากกา LAMY ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ
ผมใช้ LAMY มาหลายแท่งแล้วนะ แท่งแรกคือ ได้เป็นของขวัญตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ชอบมาก ไม่เคยทิ้งเลย และจะซื้อไส้มาเปลี่ยนใหม่ตลอด แต่ก็ไม่เคยได้เอาไว้เขียนอะไรยาวๆสักที (เพราะกลัวหมึกหมดเร็ว) ที่ชอบเพราะดีไซน์ปากกาสวยมีสไตล์ ได้ความพรีเมี่ยมและก็วัสดุคุณภาพสมราคา

จะหยิบปากกา LAMY ออกมาใช้ก็ต่อเมื่อต้องไปหาลูกค้า เสียบเสื้อเชิ้ตเพื่อเสริมลุคสมาร์ท ใช้จดโน๊ตสั้นๆ ใช้เซ็นต์ชื่อ และจะแอบดูดีนิดๆ เมื่อมีคนขอยืมปากกา ฮ่าๆๆ “มันเหมือนเป็นเครื่องประดับเสริมสร้างภาพลักษณ์อยู่เหมือนกันนะเนี่ย“
LAMY ทำให้อยากเขียนได้ยังไง?
ก็ดีไซน์มันสวย + จับแล้วมันใช่ + บ่งบอกสไตล์ผมได้ (ฮ่าาาๆ อีโมชั่นนอลล้วนๆ) ส่วนตัวผมคิดว่าการได้ขีดได้เขียนบนกระดาษมันเป็นกระบวนการถ่ายทอดความคิดและจินตนาการที่ต้องกลั่นกรองให้ดีซะก่อน และถ้าได้ปากกาดีๆที่เราถูกใจ… ขีดเขียนไอเดียได้พุ่งกระฉูดเชียวละ

ปากกา LAMY Safari Fountain ด้ามแรกของผม
ไม่เคยใช้ซื้อหมึกซึมมาใช้ก่อนเลยครับ หัวเขียนแปลกๆหน้าตาไม่คุ้นทำให้ต้องหัดใช้อยู่พักนึง แต่หลังจากที่ได้ใช้มา 3-4 วัน บอกเลยว่ามันทำให้การเขียนมีเสน่ห์มากๆ ออกแรงกดเบา-กดหนักก็ให้ลายเส้นหนา-บางและน้ำหมึกที่ออกมาไม่เท่ากัน (คล้ายๆคอแร้งก์) ทำให้ลายเส้นมันดูมีเสน่ห์อย่างที่บอกไปครับ

อีกอย่างคือ มันจะมีความฝึดนิดๆตอนเขียน ก็ทำให้เราบังคับลายเส้นได้ดีและหมึกจะไหลชัดตลอดเส้น ช่วยให้ลายมือเราสวยขึ้นได้ ทำให้มันเหมาะกับการออกแบบฟอนต์สวยๆ สเก็ซรูปวาดรูป ฝึกเขียนตัวเขียนภาษาอังกฤษ หรือใช้เซ็นต์ลายเซ็นต์ที่ต้องการเน้นเส้นหนัก-เบาเพื่อเสริมดวงชะตานั่นเองคร้าบ… มันใช่มากๆ

ถามว่าหมึกซึมมันซึมขนาดไหน… ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับประเภทของกระดาษที่เราใช้ด้วยครับ เพราะหมึกประเภทนี้มันจะซึมลงไปในเนื้อกระดาษ ไม่ได้เกาะอยู่ด้านบนเหมือนปากกาประเภทอื่น… ถ้ากระดาษบางเกินไปจะทำให้น้ำหมึกซึมลงไปอีกฝั่ง ก็เลยจะเขียนได้ด้านเดียวไง
รุ่นน่าสะสมของเอฟซี LAMY
ผมก็ต้องชอบสิ… ปากกาด้ามใหญ่ดีจับได้ถนัดมือ ตัวหนีบที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Safari หนีบได้แน่นหนาไม่หลุดจากเสื้อแน่นอน.. แต่ๆๆ การใช้งานปากกาหมึกซึมแบบนี้ต้องระวังเรื่องกระดาษและหมึกตอนยังไม่แห้งดี ซึ่งทำให้เปื้อนมือได้คร้าบ

เติมหมึกได้ด้วยการรีฟิล
หมึกที่ให้มาเป็นสีน้ำเงิน (ไม่แน่ใจว่ามันเปลี่ยนสีได้ไหม) ถ้าหมดก็สามารถซื้อตัวรีฟิลมาเติมได้ด้วยเพียง 100 บาท มีถึง 5 หลอด *แต่ต้องมีตัว Converter หรือหลอดดูดหมึกด้วย (เค้าขายแยกครับ)
ก็ถ้าพูดถึงการใช้งานที่ยาวนานแล้วแบบนี้ประหยัดและรักษ์โลกกว่ามากเลยทีเดียว

ความลับของปลอกปากกา LAMY
หมึกซึมหรือ Fountain Pan ปลายปลอกจะเป็นรูปกากบาท… ส่วนด้ามสีเขียวที่ผมได้มารีวิวอยู่นี้คือสี Savannah Green ที่มาพร้อมถุงกระดาษและกล่องเก๋ๆ สีเขียวซาฟารีเรียบหรูดูแพงเหมาะกับซื้อเป็นของขวัญมากครับ หรือจะซื้อไว้ใช้เองก็โอเคนะ

2 สีสุดพิเศษที่เคยผลิตเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
สีด้ามปากการุ่นนี้เป็นสี Limited Edition ที่เคยผลิตตอนเปิดตัวเมื่อ 40 ปีที่แล้วครับ ทำให้รุ่นนี้เป็น Special Edition โดยปริยายกับ LAMY Safari Savannah Green & Terra Red เป็น 2 สีในตำนานที่แฟนคลับ LAMY เค้ารอคอย (หัว F ขนาด 0.5mm) ขายที่ราคา 700.-
ส่วนรุ่น Rollerball pen หรือหมึกเจล (หัว M ขนาด 0.7mm) ราคา 600.- และ Ballpoint pen หรือปากกาลูกลื่น ราคา 500.- คร้าบ
ปากกา LAMY Safari Special edition รุ่นนี้ และรุ่นอื่นๆ สามารถไปเลือกช้อปเลือกซื้อได้ที่ www.lamy.co.th แล้วก็ยังได้สะสม Lamy Reward เพื่อรับบริการแกะสลักปากกาฟรีๆ แต่ถ้าอยากหยิบจับสัมผัสก็ไปเลือกซื้อได้เลยที่ Mega bangna หรือ Siam discovery ก็ได้ครับ

